เลือกบริษัทจัดหางานในประเทศไทยได้อย่างไร?

เลือกบริษัทจัดหางานในประเทศไทยได้อย่างไร?

คุณกำลังมองหาบริษัทจัดหางานในประเทศไทยอยู่หรือไม่? 

มีตัวเลือกมากมายให้คุณได้เลือก ในความเป็นจริงแล้วตลาดการจัดหางานนั้นมีอัตราการแข่งขันที่สูงและเต็มไปด้วยบริษัทจัดหางานหลายแห่งในประเทศไทย แล้วจะเลือกบริษัทจัดหางานที่เหมาะสมได้อย่างไร?
 

ในบทความนี้ เราจะอธิบายถึงลักษณะของบริษัทจัดหางานในประเทศไทยว่ามีรูปแบบการทำงานอย่างไร และอะไรเป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกหากคุณกำลังมองหาบริษัทจัดหางานที่เชื่อถือได้ในประเทศไทย
 

บริษัทจัดหางานคืออะไร?

บริษัทจัดหางานเป็นผู้ให้บริการจัดหางานให้แก่องค์กรต่างๆ บริษัทจัดหางานทำงานเป็นส่วนช่วยเหลือของทีม HR ในแต่ละองค์กรเพื่อค้นหาและจ้างผู้สมัครสำหรับตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร ซึ่งทางองค์กรยังหาผู้สมัครไม่ได้ด้วยเหตุผลต่างๆ

บริษัทจัดหางานทำงานอย่างไร

บริษัทจัดหางานทำงานร่วมกับผู้จ้างงานเพื่อทำความเข้าใจความต้องการในการจ้างงานและวิธีการต่างๆในการรับสมัครงาน เช่น ประกาศรับสมัครงาน สื่อสังคมออนไลน์ การค้นหาพนักงาน และฐานข้อมูลของผู้สมัครเพื่อค้นหาผู้สมัครที่มีศักยภาพสำหรับตำแหน่ง
 
 จากนั้นหน่วยงานจะคัดกรองและประเมินผู้สมัครเพื่อให้แน่ใจว่าตรงตามข้อกำหนดของตำแหน่งนั้นๆและนำเสนอรายชื่อผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมให้แก่ผู้จ้างงานเพื่อพิจารณา บริษัทจัดหางานอาจให้บริการเพิ่มเติม เช่น การทดสอบทักษะ และการตรวจสอบประวัติ และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมตลอดกระบวนการเริ่มต้นใช้งาน
 
 สำหรับนายจ้าง การทำงานกับบริษัทจัดหางานจะช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากร เนื่องจากบริษัทจัดหางานสามารดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการค้นหาและว่าจ้างผู้สมัครแล้ว 
 
  สำหรับผู้หางาน บริษัทจัดหางานเปิดโอกาให้เข้าถึงโอกาสในการทำงานที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น และสามารถช่วยเชื่อมโยงพวกเขาให้เข้ากับผู้จ้างงานที่น่าสนใจได้

เหตุผลหลักที่บริษัทต่างๆต้องการตัวแทนจัดหางานในประเทศไทย

การฟาดฟันเพชื่อช่วงชิงคนที่มีความสามารถในดินแดนแห่งรอยยิ้มนี้เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในบางภาคอุตสาหกรรม เช่น เทคโนโลยี การบริการ หรือการผลิต เพื่อรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน องค์กรต้องการได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุดจากพนักงานใหม่ ซึ่งหมายความว่าองค์กรต้องเพิ่มความสามารถในการสรรหาบุคลากรเพื่อให้องค์กรได้ประโยชน์สูงสุด ดังนั้นบริษัทจัดหางานจึงเข้ามามีบทบาทอย่างมากในปัจจุบัน
 
 เหตุผลหลักที่องค์กรต่างๆ ใช้บริการบริษัทจัดหางานในประเทศไทยมีดังนี้
 

  • การเข้าถึงตลาดแรงงานที่จำกัด : เช่น ธุรกิจ SME ธุรกิจที่มีชื่อเสียงทางลบในตลาดแรงงาน เมื่อทำการประกาศรับสมัครงานใดก็ตามมักจะได้รับใบสมัครจากผู้สมัครค่อนข้างน้อย เนื่องจากภาพลักษณ์ที่ไม่ดี การใช้งานบริษัทจัดหางานจึงช่วยให้ธุรกิจเหล่านี้เข้าถึงกลุ่มตลาดแรงงานมากขึ้น
  • ขาดทักษะการสรรหาภายในองค์กร : ในประเทศไทยอาจจะยังไม่คุ้นชินกับคำว่า “Headhunting” คือการที่บางบริษัทเลือกใช้งานผู้สรรหาจากเอเจนซี่เพื่อหาผู้สมัครที่มีความสามารถมาทำงานในองค์กร 
  • เวลา/แรงกดดันในการสรรหา : การวางแผนกำลังคนที่ไม่ดีอาจนำไปสู่การใช้บริษัทจัดหางาน ไม่ว่าจะเป็นการว่าจ้างใหม่หรือหาคนมาแทน ความเร่งด่วนในการจ้างงานคือเหตุผลหลักที่บริษัทต่างๆ เลือกใช้บริษัทจัดหางาน "เราต้องการผู้สมัครโดยด่วน" นี่เป็นคำพูดซ้ำซากที่องค์กรต่างๆ พูดแก่เจ้าหน้าที่สรรหาบุคลากร 
  • การสรรหาเชิงกลยุทธ์เนื่องจากการขาดแคลนทักษะ : บางตำแหน่งต้องอาศัยบริษัทจัดหางานเท่านั้น เหตุผลเพราะตลาดแรงงานนั้นมีการแข่งขันสูงมากยากเกินกว่าบริษัทจะเป็นผู้หาผู้สมัครเอง ยกตัวอย่างเช่น ตำแหน่งงานด้านไอทีและดิจิทัลที่หาผู้สมัครค่อนข้างยาก 
  • การขยายตัวใหม่ๆ : เมื่อใดก็ตามที่บริษัทต้องการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย พวกเขามักต้องการพนักงานในท้องถิ่นที่จะสามารถพัฒนาตลาดในประเทศหรือในภูมิภาคได้ การจ้างงานจึงต้องใช้กลยุทธ์มากยิ่งขึ้นเนื่องจากบริษัทไม่ใช่บริษัทสัญชาติไทย นอกจากการจัดหาผู้สมัครที่เหมาะสมแล้วองค์กรมักจะขอรับการสนับสนุนจากบริษัทจัดหางานเพื่อขอคำแนะนำในด้านกฎหมายแรงงานในท้องถิ่นและเพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดและข้อบังคับท้องถิ่น

ประเภทของบริการจัดหางานโดยบริษัทจัดหางานในประเทศไทย

บริการจัดหางานในประเทศไทยมี 3 ประเภทหลัก : 

  1. ผู้ให้บริการจัดหางานแบบถาวร : พันธมิตรด้านการสรรหาที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายที่สุดในตลาด ผู้ให้บริการการจัดหางานแบบถาวรในประเทศไทยมักเสนอบริการจัดหางานในนามของลูกค้า บริษัทจัดหางานขนาดใหญ่จะให้บริการหาพนักงานตามหมวดหมู่ต่างๆ ตัวอย่างเช่น การค้นหาด้านกฎหมาย / ไอที / การเงิน / ผู้บริหาร เป็นต้น ในประเทศไทย รูปแบบค่าตอบแทนของผู้ให้บริการจัดหางานถาวรจะขึ้นอยู่กับความสำเร็จ (การแทนตำแหน่ง) หรือการค้นหาพนักงานประจำ รายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ด้านล่าง
  2. ผู้ให้บริการแบบ MSP : ผู้ให้บริการที่มีการจัดการ (MSP) เป็นการจ้างพนักงานภายนอกที่มีเป้าหมายในการจ้างพนักงานชั่วคราวจากภายนอกเพื่อสนองความต้องการการใช้แรงงานที่มีจำนวนมากที่อาจจะเกิดขึ้น โดยบริษัทจัดหางานจะต้องรับผิดชอบทุกกระบวนการตั้งแค่การสรรหาจนถึงการจ้างงาน เพื่อให้ถูกต้องภายใต้กฎหมายแรงงานและข้อบังคับต่างๆ โดยรูปแบบค่าตอบแทนของผู้ให้บริการ MSP อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า แต่โดยปกติแล้วการกำหนดราคาจะกำหนดตามราคาต่อชั่วโมงของพนักงานเทียบกับปริมาณการจ้างงาน
  3. ผู้ให้บริการแบบ RPO : ผู้ให้บริการที่ดำเนินการเป็นผู้สรรหาภายในองค์กรในนามขององค์กร ช่วยลดภาระงานด้านธุรการที่เกี่ยวข้องกับการจัดหางานให้กับผู้ว่าจ้าง ฟังก์ชันการสรรหาบุคลากรจะถูกส่งต่อไปยังผู้ให้บริการ ซึ่งจะรับประกันว่าจะให้บริการจัดหางานอย่างราบรื่นสำหรับองค์กร รวมถึงการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ของผู้ว่าจ้างเพื่อให้ได้มาซึ่งพนักงานที่มีความสามารถ ค่าตอบแทนของผู้ให้บริการแบบ RPO เป็นค่าใช้จ่ายที่บริษัทต้องจ่ายให้กับบริษัทจัดหางานเป็นประจำทุกเดือน 

บริษัทจัดหางานในประเทศไทย

  • ฟรีแลนซ์จัดหางาน : ฟรีแลนซ์ในการจัดหางานกำลังเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในประเทศไทย พวกเขามักมีพื้นฐานมาจากบริษัทจัดหางานหรือเป็นนายหน้าภายในองค์กร พวกเขาชอบดำเนินการด้วยตัวเองและมักถูกเลือกโดยลูกค้าเนื่องจากเครือข่ายของพวกเขา ฟรีแลนซ์จัดหางานมักจะเชี่ยวชาญในบางสาขาอุตสาหกรรม (ไอที/การเงิน/การขาย / วิศวกรรม) 
  • การจัดหางานแบบบูติก (5- 50 คน) : บริษัทจัดหางานแบบบูติกเป็นตัวแทนของบริษัทจัดหางานจำนวนมากที่มีอยู่ พวกเขามักจะอยู่ระหว่าง 5-30 คนและบางคนมีสำนักงานที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค บริษัทจัดหางานแบบบูติกมักจะเชี่ยวชาญใน 2-3 สาขา ซึ่งอาจจะไม่สามารถค้นหาผู้สมัครที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะได้ดีนักโดยการดำเนินการที่มีความจำกัดทางด้านพื้นที่ในการสรรหาและการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า บริษัทจัดหางานแบบบูติกจึงมุ่งเน้นที่การให้บริการตามความต้องการเฉพาะด้าน 2-3 สาขาเนื่องจากความจำกัดดังกล่าว ผู้ให้บริการจัดหางานแบบบูติกจึงชอบทำงานกับพนักงานประจำ (ค่ามัดจำ)
  • บริษัทจัดหางานขนาดใหญ่ (100+) : ในประเทศไทย ผู้ให้บริการขนาดใหญ่มักเป็นกลุ่มจัดหางานในอดีต เช่น PRTR หรือบริษัทจัดหางานต่างประเทศ เช่น Addecco, Michael Page หรือ Robert Walters บริษัทดังกล่าวได้เปิดตัว COE ในพื้นที่และสามารถให้บริการจัดหางานแบบ end-to-end สำหรับการค้นหาการสรรหาบุคลากรแบบถาวร, MSP และ RPO

รูปแบบค่าตอบแทนของผู้ให้บริการจัดหางานประจำ

1. ค่าบริการ

เพื่อแลกกับการจัดหาผู้สมัครที่มีความสามารถ บริษัทจัดหางานจึงต้องเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการจัดหางานจากทางองค์กร
 
 ค่าธรรมเนียมการสรรหาเป็นจะคิดเป็น % ของเงินเดือนขั้นพื้นฐานของพนักงานที่บรรจุเข้าทำงาน
 
 จะสังเกตได้ว่าอัตราค่าบริหารอาจจะมีความแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับประเภทของงการใช้บริการ (การสรรหาบุคลากรถาวร, MSP, RPO) ซึ่งราคาค่าบริการสำหรับการสรรหาบุคลากรถาวรในประเทศไทยนั้นมีความสอดคล้องกันเป็นอย่างกับบริษัทจัดหางานในประเทศไทย  (ฟรีแลนซ์ การจัดหางานแบบบูติก บริษัทจัดหางานขนาดใหญ่)

อัตราค่าบริการในการจัดหางานมักจะผันผวนระหว่าง 18% ถึง 25% ขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการหางาน

ค่าธรรมเนียมการรับสมัครโดยทั่วไปประกอบด้วย :

  • เงินเดือนขั้นต้น + สวัสดิการ (เช่น รถยนต์ของบริษัท เบี้ยเลี้ยงคงที่ ฯลฯ)

ค่าธรรมเนียมการรับสมัครโดยทั่วไปไม่รวม :

  • ผลประโยชน์และโบนัสผันแปร สวัสดิการอื่นๆ (กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โบนัสผันแปรตามผลประกอบการ ฯลฯ)

ตัวอย่างเช่น หากบริษัทจัดหางานบรรจุผู้สมัครในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายขายได้สำเร็จโดยได้รับเงินเดือนขั้นต้นเดือนละ 60,000 บาท ที่การสรรหา 20% ค่าธรรมเนียมการสรรหาจะเท่ากับ

  1. เกณฑ์การคิดค่าสรรหา (50,000 บาท (เงินเดือนขั้นต้นรายเดือน) * 12 (เดือน) = 600,000 บาท
  2. รวมค่าธรรมเนียมการรับสมัคร (20%) = 120,000 บาท
  3. สำหรับจำนวนนี้ จะมีการคิดภาษีมูลค่าเพิ่ม +7% ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ลูกค้าต้องจ่ายคือ : 128,400 บาท

2. ค่าธรรมเนียมฉุกเฉิน VS ค่าธรรมเนียมการรักษาต่างกันอย่างไร?

  • ค่าธรรมเนียมฉุกเฉิน : บริษัทจัดหางานจะได้รับค่าตอบแทนก็ต่อเมื่อองค์กรจ้างผู้สมัครได้สำเร็จ นี่เป็นรูปแบบที่ใช้กันมากที่สุดในประเทศไทยเนื่องจากองค์กรไม่มีการจ่ายค่าตอบแทนล่วงหน้า
  • ค่าธรรมเนียมการรักษา : องค์กรต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการการสรรหาให้แก่บริษัทจัดหางานก่อนจะเริ่มการค้นหา ค่าธรรมเนียมมักจะเท่ากับ⅓ของค่าธรรมเนียมในการรับสมัครทั้งหมด โดยทั่วไปจะใช้สำหรับการค้นหาตำแหน่งผู้บริหาร วิธีนี้ช่วยให้บริษัทจัดหางานสามารถใช้ทรัพยกรต่างๆเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้สมัครที่มีความสามารถสูงสุด

3. ข้อกำหนดและเงื่อนไขทั่วไป

เงื่อนไขการชำระเงิน : ในประเทศไทย มีเงื่อนไขการชำระเงินอยู่ที่ 30 วัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการจัดหางานฉุกเฉิน ผู้ให้บริการจะมีความยืดหยุ่นในการทำงานให้มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการขององค์กร (เช่น เงินมัดจำหรือการผูกขาด)
 
 ระยะเวลาการทดแทนตำแหน่ง : ในประเทศไทย ระยะเวลาการทดแทนตำแหน่งกับระยะเวลาการทดลองงานของพนักงานอยู่ที่ 90 วัน บริษัทจัดหางานอาจจะไม่คืนเงินให้ในกรณีที่พนักงานลาออก แต่บริษัทจัดหางานมักจะให้คำมั่นว่าจะเปลี่ยนผู้สมัครให้ฟรี (อย่างน้อยหนึ่งครั้ง) หากเขา/เธอลาออกภายในระยะเวลา 90 วัน
 
การผูกขาด : เป็นเรื่องปกติที่จะมีบริษัทจัดหางานขอสิทธิพิเศษกับทางองค์กร หากองค์กรให้ความผูกขาดกับบริษัทจัดหางานพวกเขาอาจจะมีแนวโน้มที่จะทุ่มเทเวลาและทรัพยากรเพื่อค้นหาผู้สมัครที่มีศักยภาพมาทดแทนตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม หากบริษัทจัดหางานเห็นว่าคุณทำงานกับเอเจนซีอื่น 3 หรือ 5 แห่งแล้ว พวกเขาอาจให้เวลากับตำแหน่งที่คุณกำลังค้นหาไม่มาก

วิธีเลือกบริษัทจัดหางานในประเทศไทย

มีเอเจนซี่จัดหางานมากมาย คุณจะเลือกเอเจนซี่ที่เหมาะกับองค์กรของคุณได้อย่างไร? ต่อไปนี้เป็นหลักเกณฑ์สำคัญที่ต้องพิจารณาเมื่อต้องเลือกบริษัทจัดหางาน

  1. ต้นทุน (งบประมาณ) : ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการจัดสรรงบประมาณให้กับบริษัทจัดหางานที่เพียงพอ  หากคุณใช้บริษัทจัดหางานคุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่าธรรมเนียมการจัดหางานนั้นสมเหตุสมผลและตรงกับการพิจารณางบประมาณของคุณหรือไม่
  2. ประสบการณ์ในการจัดหางาน : อย่าหลงเชื่อโบรชัวร์หรือสื่อทางการตลาดของบริษัทจัดหางาน ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณกำลังพูดคุยกับบริษัทจัดหางานที่รู้จักอุตสาหกรรมของคุณและผู้ที่มีความรู้เป็นอย่างดีในอุตสาหกรรม โดยพวกเขาจะต้องสามารถสร้างความแตกต่างให้แก่คุณได้
  3. ขนาดและกลุ่มของผู้มีความสามารถ : เอเจนซี่ขนาดใหญ่อาจรับประกันการเข้าถึงกลุ่มผู้สมัครที่กว้างขึ้น ในขณะที่เอเจนซี่บูติกอาจเข้าถึงกลุ่มผู้มีความสามารถเฉพาะในบางตำแหน่งงาน
  4. วิธีการรับสมัคร : สอบถามเอเจนซี่เกี่ยวกับวิธีการรับสมัคร บริษัทจัดหางานมีบอร์ดงานเพียงอย่างเดียวหรือมีผู้สมัครอยู่แล้ว พวกเขาใช้โซเชียลมีเดียเพื่อดึงดูดผู้สมัครหรือไม่? บริษัทจัดหางานที่ดีจะมีวิธีการที่หลากหลายเพื่อดึงดูดผู้สมัครที่ดีที่สุด
  5. กระบวนการคัดกรองและการประเมิน : กระบวนการคัดกรองเป็นสิ่งสำคัญเพื่อตรวจสอบว่าผู้สมัครต้องคุณมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดของตำแหน่งงาน หากเอเจนซี่ส่ง CV มาให้คุณเท่านั้น แสดงว่าคุณกำลังเสียเวลา ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน่วยงานมีวิธีการที่แตกต่างกันในการคัดเลือกผู้สมัคร ตัวอย่างเช่น ใช้การประเมินจากหน้าที่รับผิดชอบในตำแหน่งงานนั้นๆ หรือ ใช้การประเมินพฤติกรรมในการทำงาน
  6. การสื่อสาร : ตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริษัทจัดหางานที่คุณจะร่วมงานด้วยจะแจ้งให้คุณทราบในทุกขั้นตอนและตอบคำถามของคุณในเชิงรุก นอกจากนี้ ผู้ให้บริการสรรหาบุคลากรที่มีคุณภาพจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับตลาดผู้สมัครงานแก่คุณ เพื่อให้คุณตัดสินใจจ้างงานได้อย่างถูกต้อง
  7. ประวัติการทำงาน : ตรวจสอบประวัติการทำงานของเอเจนซี่ รวมถึงอัตราความสำเร็จในการบรรจุตำแหน่งที่คล้ายกับตำแห่นงที่คุณกำลังมองหาผู้สมัคร ขอข้อมูลอ้างอิงและติดตามผลเพื่อให้ทราบถึงประสิทธิภาพในการทำงาน
  8. ขนาดของบริษัทจัดหางาน : พิจารณาขนาดของหน่วยงาน คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเอเจนซี่มีทรัพยากรเพียงพอต่อการสรรหาบุคลากร อย่าลังเลที่จะถามว่าถึงกระบวนการในการสรรหา

 Huneety ค้นหาผู้สมัครด้วยวิธีการใหม่ๆเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้สมัครที่มีคุณภาพในประเทศไทย

HRTech ราคาไม่แพง แก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากร
 Huneety เป็นบริษัท HRTech ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย ให้บริการจัดหางานให้แก่บริษัทต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากร Huneety สร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพด้าน Talent Acquisition โดยมีพันธกิจในการให้การสนับสนุนแก่บริษัทที่ประสบปัญหาการขาดแคลนบุคลากรและบริษัทต้นทุนน้อย

 Huneety นำเสนอวิธีการค้นหาผู้สมัครในราคาไม่แพงและใช้งานได้อย่างง่ายดายเพื่อให้บริษัทต่างๆ เติบโต ตามวิสัยทัศน์ของเรา Huneey เสนอคุณสมบัติฟรีสำหรับบริษัทต่างๆ เพื่อ :

  • จับผู้สมัครในแพลตฟอร์ม
  • ประเมินทักษะที่อ่อนนุ่ม ทักษะที่หนัก พฤติกรรม และบุคลิกภาพของผู้สมัคร
  • เลือกผู้สมัครที่เหมาะสม

คำมั่นสัญญาในการให้บริการจัดหางานของ Huneety

 เมื่อใดก็ตามที่มีงานด้านการสรรหาบุคลากร เรายินดีที่จะจัดส่งผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมให้คุณภายใน 5 วันทำการ
 
 หากคุณเริ่มงานกับ Huneety คุณจะสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้มีความสามารถที่มีอยู่ในฐานข้อมูลของเราที่ถูกคัดเลือกด้วยเทคโนโลยี สิ่งนี้ช่วยให้เราเร่งขั้นตอนการสรรหาบุคลากรและส่งมอบผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกให้คุณได้เร็วขึ้น
 
 0 ค่าธรรมเนียมล่วงหน้าถูกกว่านายหน้าทั่วไป 40% ด้วยเทคโนโลยีการสรรหาบุคลากรที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเราและกลุ่มผู้มีความสามารถที่มีอยู่ Huneety จึงเหมาะสมกว่าในการค้นหาผู้สมัครเพื่อมาเติมเต็มตำแหน่งงานว่างที่คุณกำลังมองหา ส่งผลให้ค่าธรรมเนียมของเราถูกว่าเจ้าอื่นถึง 40%

รับประกันการทดแทนตำแหน่ง 90 วัน Huneety เชื่อมั่นในการจับคู่ผู้ที่มีความสามารถให้เข้ากับบริษัทของคุณ หากพนักงานใหม่ที่เราค้นหาให้คุณไม่ผ่านช่วงทดลองงานไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม ทีม Huneety ยินดีที่จะหาผู้สมัครท่านอื่นให้ ฟรี!
 

แบบประเมินฟรีสำหรับการจ้าง ผู้สมัครแต่ละคนที่ถูกคัดเลือกจะถูกประเมินจากเทคโนโลยีของ Huneety เราจึงมั่นใจว่าผู้สมัครจะมีคุณสมบัติตรงกับความต้องการของบริษัทคุณ อาทิ ทักษะด้านอารมณ์ และทักษะด้านความสามารถ เพื่อให้คุณแน่ใจก่อนทำการนัดสัมภาษณ์

Huneety ส่งสมัครที่ผ่านการคัดเลือกได้เร็วขึ้นเพราะเหตุใด

เราสามารถจัดหาบุคลากรสำหรับทุกๆตำแหน่งงานและในทุกอุตสาหกรรม Huneety ใช้ประโยชน์จากสร้างเครือข่ายกับบริษัทจัดหางาน (ขนาดกลางและขนาดใหญ่) รวมถึงฟรีแลนซ์เพื่อส่งผู้สมัครที่มีคุณสมบัติตรงเข้าสู่แพลตฟอร์ม Huneety ทีมงานของเราได้คัดเลือกพันธมิตรด้านการสรรหาด้วยความเชี่ยวชาญโดยสามารถวิเคราะห์ได้จากประวัติการดำเนินงานและกลุ่มผู้มีความสามารถ
 
 ในช่วงแรกในการร่วมงานกับ Huneety เราจะเลือกผู้สมัครจากอุตสาหกรรมที่คุณกำลังตามหาโดยตรง ซึ่งจะทำให้คุณได้พบกับผู้สมัครที่มีความสามารถและเข้ากับองค์กรของคุณมากที่สุด
 
 ทีม Huneety มีการสื่อสารกับทีมสรรหาและผู้สมัครงานอยู่ตลอดเวลา เราดูแลให้ทุกขั้นตอนของกระบวนการสรรหาเพื่อให้คุณได้พบกับผู้สมัครที่มีความสามารถจริงๆ
 
 ติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาฟรี